ในการเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศนั้น จะต้องเตรียมการจัดทำหนังสือเดินทาง (Passport) และการขอวีซ่าเพื่อเข้าไปอยู่ในประเทศที่่เราจะไป แต่ก่อนที่เราจะถึงขั้นตอนการขอวีซ่า สิ่งสำคัญที่ต้องทำก็คือ การเตรียมเอกสารสมัครเข้าศึกษาค่ะ  น้อง ๆ คนไหนกำลังจะไปเรียนต่อที่อังกฤษ แล้วสงสัยว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจ และกำลังวางแผนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชั้นนำใน UK มาปรึกษาพี่ ๆ และตัวแทนมหาวิทยาลัยชื่อดังอังกฤษได้โดยตรงในกิจกรรม SI-UK University Fair 2022 กิจกรรมนี้ ฟรี! ตลอดทั้งงานค่ะ

1. Transcript

ใบแสดงผลการเรียน หรือใบจบ แสดงผลการเรียน (เกรด) ทุกภาคเรียนที่น้อง ๆ ได้เรียนไปแล้ว สามารถขอได้หลังจากจบภาคการศึกษา

2. Graduation Certificate

หลักสูตรที่จบล่าสุด แนะนำให้ขอเป็นภาษาอังกฤษนะคะ

3. ผลสอบ IELTS 

4. Letters of Recommendation

หนังสือรับรอง จดหมายแนะนำจากอาจารย์หรือที่ทำงานอย่างน้อย 2 ฉบับ ควรขอล่วงหน้าก่อน Deadline ส่งเอกสารอื่น ๆ ทั้งหมดเพื่อเผื่อเวลาให้อาจารย์หรือที่ทำงานได้ทำจดหมาย และไม่แนะนำให้ขอ Letters of Recommendation จาก พ่อแม่ ญาติ หรือเพื่อน เพราะคณะกรรมการจะไม่พิจารณาใบสมัครของน้องเลยนะคะ 

5. Resume

ประวัติย่อหรือ เรียงความ ในหัวข้อ ”ทำไมถึงสนใจไปศึกษาต่อในสาขาวิชาที่สมัคร” เล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวน้อง ๆ คร่าวๆ และมุ่งเน้นอธิบายถึงเหตุผลที่ว่าทำมถึงสนใจจะไปเรียนคณะนั้นๆในประเทศอังกฤษ

6. Statement of Purpose (SOP) หรือ Personal Statement

SOP หรือ จดหมายแนะนำตัว เป็นส่วนหนึ่งในการสมัครเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย โดยการเขียน SOP นั้นนักศึกษาจะต้องเขียนเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการเข้าศึกษาในหลักสูตรนั้น รวมถึงสิ่งที่หวังว่าจะได้รับหลังจากจบหลักสูตร และเหตุผลในการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยนั้น ๆ

7. เอกสารการเรียนหรือฝึกงานอื่นๆ (ถ้ามี)

เพื่อช่วยประกอบการพิจารณา ถ้าเคยเรียนหรือฝึกงานเกี่ยวกับหลักสูตรที่จะไปศึกษาต่อ ยิ่งสมควรยื่นเอกสารค่ะ จะช่วยให้น้อง ๆ มีภาษีดีกว่าผู้สมัครท่านอื่นแน่นอน

8. รูปถ่าย

หน้าตรง สวมชุดสุภาพ ขนาด 1 นิ้วครึ่ง หรือ 1 นิ้ว *ขึ้นอยู่กับสถาบันที่สมัคร

9. สำเนาหนังสือเดินทาง

10. Application Form

ใบสมัคร ขาดไม่ได้เลยค่ะ สิ่งนี้ อย่าลืมไปดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครล่าสุดจากเว็บไซต์นะคะ

11. หนังสือรับรองการทำงาน (บางคณะต้องการประสบการณ์ทำงานด้วย)

  • สำหรับน้อง ๆ ที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว ใช้เอกสาร Recommendation Letter จากที่ทำงาน 2 ฉบับ
  • กรณีไม่มีประสบการณ์ทำงาน  ใช้เอกสาร  Recommendation Letters จากอาจารย์ 2 ท่าน
  • มีประสบการณ์ทำงานแต่ไม่เกิน 5 ปี ใช้เอกสาร Recommendation Letter จากอาจารย์ 1 ท่าน และ Recommendation letter จากที่ทำงาน 1 ท่าน
  • ทำงานมามากกว่า 5 ปีแล้ว ใช้เอกสาร Recommendation Letter จากที่ทำงาน 2 ฉบับ

สำหรับผู้ที่ไม่มีผลสอบ IELTS / TOEFL  ในบางมหาวิทยาลัยสามารถสมัครเข้าได้เลย โดยไปเรียนภาษาอังกฤษกับมหาวิทยาลัยนั้น และสามารถเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีหรือโทได้ทันที หลังเรียนจบภาษาอังกฤษระดับสูงของมหาวิทยาลัย

สำหรับผู้ที่ไม่มีผลสอบ GMAT หรือ GRE ก็สามารถสมัครเข้าเรียนได้เช่นกัน ในบางมหาวิทยาลัยไม่ต้องรอผลสอบเหล่านี้ในการสมัครเข้าศึกษาต่อ

ข้อควรรู้

  • ฝ่ายรับสมัครนักเรียนต่างประเทศในบางมหาวิทยาลัยจะทำการพิจารณาใบสมัคร หลังจากได้รับเอกสารทั้งหมดแล้ว ยกเว้นคะแนน  IELTS / TOEFL และปริญญาบัตรที่ส่งตามหลังมาได้ ส่วนบางมหาวิทยาลัยอาจจะรับนักเรียนเข้าเรียนต่อได้เลย โดยดูแค่วุฒิการศึกษา และ SOP ส่วนเอกสารอื่น สามารถส่งมาในภายหลังได้
  • ผู้ที่จะสมัครเข้าศึกษาต่อไม่ว่าประเทศใดก็ตาม ควรเตรียมเอกสารทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ และบางสถาบันจะมีค่าธรรมเนียมในการสมัคร ดังนั้นผู้สมัครต้องเตรียมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย สำหรับผู้ที่เข้าสมัครศึกษาต่อระดับปริญญาเอก นอกจากเอกสารที่ต้องเตรียมดังกล่าวข้างต้นนั้น จะต้องเขียนบทวิจัย หรือ Research เพื่อประกอบการพิจารณาอีกด้วย

Study in the UK

สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่ออังกฤษ เช่น หลักสูตร คุณสมบัติ และขั้นตอนการสมัครเรียนที่ มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ SI-UK ฟรี! ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Literature Review คืออะไร? เอาไว้ทำอะไร?

Unconditional offer ต่างกับ Conditional offer อย่างไร?

เช็ค! 7 มหาวิทยาลัย UK ด้าน Politics ที่ถูกจัดอันดับโดย Guardian ปีล่าสุด!