นอกจากทุนทรัพย์และกำลังใจ น้อง ๆ และผู้ปกครองหลายท่านที่อาจจะยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นเรียนต่ออังกฤษและดำเนินการสมัครยังไง เมื่อไหร่ ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง เมื่ออยากไปเรียนต่ออังกฤษ หรือ UK ในระดับปริญญาตรีที่ ดังนั้น SI-UK จึงรวบรวมข้อมูลเเบบจัดเต็มพร้อมสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ เพื่อจะได้เตรียมตัวไปเรียนต่ออังกฤษทันในปีการศึกษาหน้านั่นเอง
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนสมัครเรียนต่อ ป.ตรี ที่ อังกฤษ และ UK
การเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาของ UK จะรับผ่านระบบที่เรียกว่า UCAS ซึ่งปกติจะรับนักเรียนที่เรียนในระบบ A-level หรือมีผลสอบที่เป็นสากลอย่าง IB (International Baccalaureate) และ SAT(Scholastic Assessment Tests) สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ไม่ได้เรียนในระบบดังกล่าว แต่อยากเข้าคณะทางการแพทย์ ฯลฯ หรือใฝ่ฝันจะเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เช่น Oxford, Cambridge หรือ Imperial ซึ่งจะต้องไปเรียน A- Level มาก่อน (ใช้เวลาเรียน 2 ปี) ส่วนหลักสูตรอื่น ๆ สามารถลงเรียนปรับพื้นฐานเพื่อเตรียมความพร้อมหรือที่เรียกว่า Foundation Course ได้ ซึ่งเมื่อเรียนจบและมีผลคะแนนผ่านเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้ได้ ก็จะสามารถเข้าไปศึกษาในระดับ ป.ตรี ในสหราชอาณาจักรได้ตามปกติ
หลักสูตร Foundation จะใช้เวลาเรียนตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี ซึ่งหลาย ๆ มหาวิทยาลัยจะมีคอร์ส Foundation อยู่แล้ว นักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่จึงเลือกเรียน Foundation ที่มหาวิทยาลัยนั้น ๆ โดยตรง หรือลงเรียนกับ Pathway Provider ที่มี contact กับมหาวิทยาลัยที่ตนเองสนใจเป็นหลัก น้องๆที่จบ High School จากต่างประเทศในระดับ GCSE, IGCSE ก็ต้องใช้วิธีการเดียวกันนั่นเอง
ปัจจุบันก็มีหลาย ๆ มหาวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรปริญาตรีที่รวมเอา Foundation Year เข้าไปด้วยที่เรียกว่า Extended Undergraduate Degree (เรียนเพิ่มจากเดิม 3 ปี เป็น 4 ปี) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเรียนอยู่ในระดับม. 5-6 หรือในระดับ GCSE, IGCSE ที่มีอายุ ตั้งแต่ 17 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ ในการเลือกมหาวิทยาลัยและสาขาที่จะเรียนนั้น น้อง ๆ ควรมีการพิจารณาความพร้อมของตัวเองในทุก ๆ ด้านอย่างเป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นผลการเรียน ความสนใจส่วนตัว เกณฑ์การคัดเลือก ทุนทรัพย์ ฯลฯ การหาที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อช่วยวางแผนการสมัครเรียนและช่วยประเมินผลให้ เป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ประหยัดเวลาและทำให้เราสามารถเลือกมหาวิทยาลัยและคณะที่เหมาะสมได้
การเตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ
สำหรับการเรียนต่ออังกฤษและ UK ในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยใน UK ส่วนใหญ่จะรับคะแนน IELTS ที่ 6.0 ขึ้นไป โดยคะแนนในแต่ละพาร์ทต้องไม่ต่ำกว่า 5.5 บางสาขาวิชาอาจสูงถึง 7.5 และแต่ละพาร์ทไม่ต่ำกว่า 6.0 ซึ่งน้อง ๆ ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเช่นเดียวกัน โดยสามารถไปสอบจริงหรือจะลองข้อสอบ IELTS Demo Test กับ SI-UK Bangkok ก่อนสอบจริง ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าจะได้ทราบระดับความสามารถทางภาษาของตัวเอง ว่าเราควรปรับตรงไหน เน้นที่พาร์ทใด หรือควรตั้งเป้าผลคะแนนไว้ที่เท่าไหร่
การเตรียมเอกสารที่สำคัญ
เอกสารที่น้อง ๆ จำเป็นต้องเตรียมสำหรับการสมัครเรียนต่อในระดับปริญญาตรีที่ประเทศอังกฤษ หรือ UK ได้แก่
หลักฐานทางการศึกษาฉบับภาษาอังกฤษ เช่น Transcript, Certificate, School Report, ผลการเรียน Foundation ผลคะแนน SAT, IB ฯลฯ
SoP (Personal Statement) หรือจดหมายแนะนำตัว
Recommendation Letter จดหมายรับรองจากอาจารย์
ผลคะแนนการสอบ IELTS
เอกสารส่วนตัว เช่น หนังสือเดินทาง และเอกสารอื่นๆ ถ้ามี
ช่วงเวลาในการสมัครเข้าเรียนต่อ
มหาวิทยาลัยใน UK ส่วนใหญ่จะเปิดเทอมในเดือนกันยายน ปัจจุบันมีบางมหาวิทยาลัยที่เปิดเทอมในเดือนมกราคมด้วย หรือที่เรียกว่า January Intake ช่วงเวลาของการสมัครจึงขึ้นอยู่กับหลักสูตรและมหาวิทยาลัยที่น้องอยากเรียน
มหาวิทยาลัยระดับท็อปอย่าง Oxford หรือ Cambridge และหลักสูตรเฉพาะทางที่เกี่ยวกับแพทย์ ทันตแพทย์ ฯลฯ จะต้องสมัครผ่าน UCAS ก่อนวันที่ 15 ตุลาคมของทุก ๆ ปี
หลักสูตรทั่วไปที่ได้รับความนิยม ต้องสมัครผ่าน UCAS ภายในวันที่ 15 มกราคม ปัจจุบันมีบางมหาวิทยาลัยใน UK ที่อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติสมัครเรียนผ่านเอเยนต์ได้เลย (รับตรง) ไม่ต้องสมัครผ่าน UCAS
UCAS สามารถสมัครล่วงหน้าได้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน หรือล่วงหน้า 1 ปี จนถึงวันที่ 30 มิถุนายนของปีถัดไป แนะนำให้เตรียมเอกสารและส่งใบสมัครตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ควรรอจนถึงวันสุดท้าย
Study in the UK
สำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่ออังกฤษ เช่น หลักสูตร คุณสมบัติ และขั้นตอนการสมัครเรียนที่ มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศอังกฤษ สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของ SI-UK ฟรี! ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
ลงทะเบียนขอข้อมูลเพิ่มเติมฟรี